วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์

Authentication
Authentication เป็นระบบพิสูจน์ตัวตนด้วยวิธีโอเพนซอร์ส มีหน้าที่ตรวจสอบผู้ใช้ที่เข้ามาใช้ระบบ อินเตอร์เน็ตในเครือข่ายขององค์กร จะครอบคลุมทั้งในส่วนของเครือข่ายที่ใช้สายและเครือข่ายไร้สาย

ส่วนประกอบของระบบ
**ส่วนติดต่อผู้ใช้เพื่อควบคุมการเข้าใช้บริการ
เริ่มต้นจากการที่ผู้ใบริการเชื่อมต่อเครือข่ายด้วยสายแลนหรือผ่านอุปกรณ์ไร้สาย ระบบจะกำหนดหมายเลขไอพีให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการ และเมื่อผู้ใช้เรียกใช้งานอินเตอร์เน็ตโดยใช้โปรแกรมค้นผ่าน (Web Brower) ระบบจะแสดงหน้าจอสำหรับล็อกอินเข้าใช้งาน จากนั้นผู้ให้บริการติองป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่ได้จากผู้ใช้บริการก่อน ระบบจะทำการตรวจสอบว่าผู้ใช้บริการรายนั้นมีสิทธ์ในการเข้าใช้ระบบหรือไม่

หลังจากที่ระบบตรวจสอบพบว่าผู้ใช้มีสิทธิ์เข้าใช้ระบบแล้ว ระบบจะแสดงรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับสิทธิ์ในการเข้าใช้บริการ เช่น ชื่อผู้ใช้ และนามสกุล หมายเลขไอพีที่ดีรับ เวลาที่สามารถใช้งานได้ต่อครั้ง วันหมดอายุการใช้งาน เป็นต้น

ประโยชน์ของระบบ Authentication
1 . เป็นสูตรสำเร็จในการติดตั้งอุปกรณ์ระบบเครือข่ายให้มีความมั่นคงปลอดภัยทางข้อมูลสารสนเทศโยลดการซับซ้อนในการออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายให้มีจำนวนน้อย
2. ระบุตัวตนผู้ใช้งานได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตยังสามารถรับรู้นโยบาย(Policy) ที่ประกาศใช้เพื่อความถูกต้องและป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
3. สามรถสืบคันผู้กระทำความผิด สถิติการใช้งานระบบสารสนเทศ ระบบอินเตอร์เน็ต และจัดเก็บบันทึกเป็นข้อมูลที่สามารถสืบค้นได้อย่างสะดวก
4. ประเมินพฤติกรรมการใช้งานอินเตอร์เน็ตภายในองค์กร (Network Awareness) เพื่อจัดทำการประเมินพนักงานสำหรับงานทรัพยากรบุคคลได้
0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.

เครือข่ายคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

เครือข่ายคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเตอร์

1.ความหมายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นจากการนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน โดยใช้สื่อสัญญาณข้อมูล และอุปกรณ์เครือข่ายที่จำเป็น เพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรณ์ในเครือข่ายร่วมกัน ได้แก่อุปกรณ์ทางฮาร์ดแวร์ โปรแกรมประยุกต์และข้อมูล

2.การเชื่อมต่อทางกายภาพ (Physical Connection) ทำได้หลายแบบ
2.1 การเชื่อมต่อผ่านระบบโทรศัพท์ เป็นรูปแบบที่ง่ายที่สุด เป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ตามบ้านเข้ากับเครือข่ายของผู้ให้บริการเครือข่ายผ่านระบบโทรศัพท์ที่มีอยู่แล้ว อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณAnalog เป็นDigital และDigital เป็น Analog ดังกล่าวนี้เรียกว่าโมเด็ม
2.2 การเชื่อมเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่ายท้องถิ่นวงจรเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีการใช้งานมากที่สุดในปัจจุบัน ได้แก่ วงจรเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีชื่อเรียกโดยทั่วไปว่า Ethernet ซึ่งมีความเร็วในการสื่อสารให้เลือกหลายระดับ ตั้งแต่ความเร็ว 10 Mbps จนถึงระดับ 1000 Mbps หรือ 1 Gbps2.3 การเชื่อมต่อเครือข่ายท้องถิ่นเป็นเครือข่ายระยะไกลเมื่อมีจำนวนเครือข่ายท้องถิ่นหลายเครือข่าย และมีความต้องการสื่อมารข้อมูลระหว่างเครือข่าย ต้องการทำการเชื่อมต่อเครือข่ายท้องถิ่นเหล่านี้เข้าด้วยกันในลักษณะจุดต่อจุด กล่าวคือต้องกำหนดจุดเชื่อมต่อในเครือข่ายของวิทยาเขตบางแสน และกำหนดจุดเชื่อมต่อของวิทยาเขตจันทบุรี และทำการเชื่อจุดทั้งสองนี้เข้าด้วยกันโดยใช้สายคู่เช่าสำหรับสื่อสารข้อมูล2.4 ระบบเครือข่ายของมหาวิทยาลัยบูรพาได้แก่วิทยาเขตบางแสน วิทยาเขตจันทบุรี และวิทยาเขตสระแก้ว รวมเป็นเครือข่ายของมหาวิทยาลัยบูรพารวมเรียกว่า BuuNet

3.การเชื่อมต่อทางซอฟต์แวร์ (Logical Connection)เมื่อทำการเชื่อมต่อทางคอมพิวเตอร์เข้ากับเครือข่ายทางกายภาพเรียบร้อยแล้ว เครื่องยังไม่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ จนกว่าจะทำการเชื่อมต่อทางซอฟต์แวร์เสียก่อน โดยทำการติดตั้งซอฟแวร์สำหรับการติดต่อสื่อสารข้อมูลซึ่งทำหน้าที่กำหนดรูปแบบและวิธีการในการสื่อสารข้อมูลเรียกว่าโพรโตคอล (Protocal)

4. เครือข่ายอินเตอร์เน็ตประกอบด้วยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชุดโพโตคอล TPC/IP เป็นมาตรฐานในการสื่อสาร หมายความว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเครือข่ายนี้ต้องทำการติดตั้งและใช้โพรโตคอลTPC/IP โดยชื่อของชุดโพรโตคอลนี้มีที่มาจากโพรโตคอลที่สำคัญ 2 โพรโตคอล คือโพรโตคอล TPC และ โปรโตคอล IP
4.1 ตำแหน่งของคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเนื่องจากคอมพิวเตอร์นั้นสามารถติดต่อสื่อสารกับเครื่องอื่นๆในเครือข่ายได้อย่างถูกต้องจึงจำเป็นต้องกำหนดตำแหน่งที่แน่นอน และ เป็นหนึ่งเดียวในเครือข่ายจึงกำหนดตำแหน่งนั้นเป็นเลขฐานสอง ซึ่งมีขนาด 32 บิต เรียกว่าเลขตำแหน่งเครือข่าย และ มีชื่อเรียกเฉพาะว่า IP Address และ นิยมเขียนเป็นเลขฐานสิบ จำนวน 4 ชุด ซึ่งจะขั้นด้วยเครื่องหมายจุดIP Address สำหรับเครื่องคอมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันสามารถตรวจสอบได้โดยใช้คำสั่ง ipconfig ในระบบปฏิบัติการ MS-DOS และ ifconfig ในระบบปฏิบัติการ UnixIP Address ที่สามารถติดต่อได้จริงต้องเป็น IP Address ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้อย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่ควบคุมเครือข่ายอย่างเป็นทางการ และ การจัดสรร IP Address ให้แก่หน่วยงานอื่นตามความจำเป็น โยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม Class A สำหรับเครือข่ายขนาดใหญ่ Class B เครือข่ายขนาดกลาง Class C เครือข่ายขนาดเล็กถ้าต้องการทดสอบว่าคอมต้นทางกับปลายทางอยู่ในเครือข่ายเดียวกันหรือเปล่านั้นให้เทียบจากเลข IP Address มาแยกหมายเลขเครือข่ายโดยนำมาดำเนินการทางตรรกะกับเครื่องต้นทางและเครื่องปลายทางเป็นที่เรียกว่า Subnet Maskถ้าตรงกันก็แสดงว่าอยู่เครือข่ายเดียวกัน
4.2 ระบบชื่อโดเมน
คือการจัดกลุ่ม IP Address ของแต่ละหน่วยงานและกำหนดเป็นชื่อใช้แทนเพื่อความสะดวกโดยกำหนดเป็น 2 ลักษณะคือ ตามลักษณะของหน่วยงาน และ ตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์5. การตรวจสอบข้อมูลในระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows
ทำได้โดยการเข้าสู่ระบบปฏิบัติ MS-DOS และ ใช้คำสั่ง ipconfig ถ้ายังไม่มีข้อมูลของ DNS ถ้าต้องการต้องใช้คำสั่ง ipconfig/All จึงจะแสดงผลโดยละเอียด




*3*3*3*3*3*3*3*3*3*3*3*3*3*3*3*3*3*3*3*3

วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ซอฟแวร์โอเพนซอร์ส

ซอฟต์แวร์โอเพนชอร์ส (Open Source Software)
-เป็นแนวทางของการพัฒนาและเผยแพร่ซอฟต์แวร์ที่แตกต่างจากรูปแบบการพัฒนาและเผยแพร่ซอฟต์แวร์แบบมีลิขสิทธิ์
-แนวคิดพื้นฐานของการพัฒนาโอเพนเซอร์ก็คือ ทุกคนสามารถเรียนรู้ แก้ไข ปรับปรุง เพิ่มเติม ทำซ้ำ และเผยแพร่ได้

ตัวอย่างซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส
1.LINUX
2.APACHE
3.PHP

*.*.*.*. SOFTWARE *.*.*.

1. System
-OS
-Computer
-Vtility

2. Application
-SW packgake
-SW custom


Application Software
*เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานในด้านต่างๆตามความต้องการของผู้ใช้
-การออกแบบ
-การพิมพ์เอกสาร
-การสื่อสารข้อมูล
-การเก็บข้อมูล
-การคำนวณ
-การวิเคราะห์ข้อมูล
Categories of Software
-ด้านธุรกิจ
-ด้านกราฟิกส์และมัลติมีเดีย
-ด้านการใช้งานส่วนตัว/การศึกษา
-การติดต่อสื่อสาร

Type of Software
1.ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป(Package Software) เป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยบริษัทผลิตซอฟต์แวร์โดยครอบคลุมการใช้งานทั่วๆไปไม่เฉพาะเจาะจงต่อผู้ใช้รายใดรายหนึ่ง
ตัวอย่างของซอฟต์แวร์
-Word Processing
- Spreadsheet
-Accounting
2.ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นใช้งานเฉพาะด้าน(Custom Software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใชและสอดคล้องกับกาการทำงาน
1.) จ้างบริษัทผลิตซอฟต์แวร์ หรือจะจ้างนักพัฒนาโปรแกรมมาพัฒนาวอฟต์แวร์
2.) ต้องเข้าไปศึกษาการทำงานและความต้องการของผู้ใช้เฉพาะด้านนั้นๆ
ตัวอย่างของซอฟต์แวร์ประเภทนี้
-โปรแกรมระบบเงินเดือน
-โปรแกรมาควบคุมสินค้าคงคลัง
-ระบบงานในโรงงานอุตสาหกรรม
3.แชร์แวร์(Shareware) เป็นซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่ทีความสามารถครบถ้วน หรืออาจจะตัดความสามารถบางส่วนออกไป หรือจำกัดจำนวนข้อมูลในการใช้งานโดยสามารถนำไปใช้งานได้ ตรงกับความต้องการ ก็สามารถชำระเงินให้กับผู้ผลิตซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานต่อไปได้
4.ฟรีแวร์(Free of Software) เป็นซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่แจกจ่ายให้ใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ไม่อนุญาตให้นำซอฟต์แวร์นี้ไปใช้ในเชิงการค้าได้
5.ซอฟต์แวร์สาธารณะ(Public-Domain Software) เป็นซอฟต์แวร์ที่แจกจ่ายให้ใช้งานได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่มีข้อจำกัดในการทำงาน

ประเภทของการใช้งานซอฟต์แวร์ประยุกต์ ได้แก่
1.ซอฟต์แวร์ประมวลคำ
2.วอฟต์แวร์ตารางทำงาน
3.ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล
4.ซอฟต์แวร์นำเสนอ
5.ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบ
6.Desktop Publishing (DTP)
7.ซอฟต์แวร์สำหรับการแต่งรูปภาพ
8.CAI
9.Web Page Authoring
10.ซอฟต์แวร์เกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล

ระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ Operating System หรือเขียนว่า OS
เป็นชุดคำสั่งที่ใช้มนการควบคุมจัดการทรัพยากรฮาร์ดแวร์ เชื่อมมระหว่างฮาร์ดแวร์และผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับฮาร์ดแวร์ได้เต็มประสิทธิภาพ
ชนิดของระบบปฏิบัติการ
- แบ่งตามผู้ใช้
1. ผู้ใช้คนเดียว
2. ผู้ใช้หลายคน
- แบ่งตามงาน
1. ทำได้หนึ่งงาน
2. ทำได้หลายงานพร้อมกัน
ตัวแปลภาษา
- หน้าที่แปลภาษาที่มนุษย์พอเข้าใจให้เป็นภาษาเครื่อง
- Source code เป็น code ของโปรแกรมที่พัฒนาขึ้น จากนั้นจึงใช้ Complier แปลเป็นภาษาเครื่อง
โปรแกรมอรรถประโยชน์
โปรแกรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
- ประเภทการจัดไฟล์
- ประเภทการลบทิ้งข้อมูล
- โปรแกรมจัดการดิกส์
- โปรแกรมรักษาหน้าจอ
- โปรแกรมป้องกันไวรัส
- โปรแกรมไฟล์วอล
- โปรแกรมบีบอัดไฟล์

ซอฟแวร์ระบบ (System Software)

ซอฟแวร์ระบบ
ชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมกับฮาร์ดแวร์ มีหน้าที่ในการควบคุม การจักการและดูแลฮาร์ดแวร์ เพื่อทำให้ฮาร์ดแวร์มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพในการใช้งานสูงขึ้น มึความยืดหยุ่นสูง รวมถึงการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้สามารถทำงานกับฮาร์ดแวร์ได้ง่ายและสะดวกสบาย ฌโดยซอฟแวร์ระบบสามารถแบ่งตามหน้าที่การใช้งานได้ดังนี้
- ระบบปฏิบัติการ
- ตัวแปลภาษา
- โปรแกรมอรรถประโยช์

ข้อมูลและสารสนเทศ Data

ข้อมูลและสารสนเทศ Data
Data/Information คือทรัพยากรที่สำคัญของหน่วยงานมีหลายลักษณะ
- ข้อมูลตัวเลข นำไปคำนวณได้
- ข้อมูลข้อความ เช่น ชื่อ, ที่อยู่
- ข้อมูลภาพลักษณ์ เช่น เอกสารที่สะแกนเก็บไว้ใช้แสดงข้อมูล
** ข้อมูล หรือ Data หมายถึง ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจจริง
** สารสนเทศ หรือ Information หมายถึง สิ่งที่ได้จากการนำข้อมูลไปผ่านกระบวนการหนึ่งก่อน

ข้อมูลที่ได้ = ถูกต้อง + เป็นปัจจุบัน+สมบูรณ์

ชุดคำสั่งโปรแกรม Software

ชุดคำสั่งโปรแกรม Software มี 2 ชนิด ได้แก่
1. System Software (ซอฟแวร์ระบบ)
เป็นชุดคำสั่งในการควบคุม สั่งงาน การทำงานของคอมพิวเตอร์และอุปกรณืต่างๆให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการสร้างระบบติดต่อกับผู้ใช้ (Interface) และจักการกับซอฟแวร์ประยุกต์ที่กำลังทำงานอยู่ เช่น DOS , wINDOWS 98 เป็นต้น

2. Application Software (ซอฟแวร์ประยุกต์)
เป็นชุดคำสั่งที่ได้รับการออกแบบให้ทำงานเน้นเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งเป็นหลัก เช่น การทำรายงานเอกสาร หรือการจัดการเก็บฐานข้อมูล

อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ Hardware

อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ Hardware
คือ ลักษณะทางกายภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งหมายถึงตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์รอบข้างซึ่งประกอบด้วยส่วนที่สำคัญคือ

- หน่วยประมวลผลกลาง
- หน่วยความจำหลัก
- หน่วยแสดงผล
- หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง

1. หน่วยประมวลผลกลาง Processor
- เสมือนเป็นสมองของคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ในการสั่งงาน คบคุมให้ส่วนอื่นๆทำงานตามคำสั่งที่ได้รับ
- ประกอบด้วยหน่วยย่อยๆที่เรียกว่า Transistor ขนาดประมาณ 0.25-0.13 ไมครอน จำนวน 10-30 ล้านตัว
- หน่วยประมวลผลกลาง ก็คือ CPU (Central Processing Unit) หรือ Processors ประกอบด้วย
* หน่วยคอบคุม (CU)
* หน่วยคำนวณ/ตรรกะ (ALU)
ถ้า CPU ทำงานได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะทำให้การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้นมีความเร็วสูงด้วย โดยการทำงานของChip Microprocessors นี้จะทำงานตามจังหวะเวลาที่แน่นอน เมื่อมีการเคราะจังหวะ 1 ครั้ง เราเรียกหน่วยที่ใช้ในการวัดความเร็วของซีพียูว่า "เฮิร์ท" (Hertz) หมายถึงการทำงานได้กี่ครั้งใน 1 วินาที
ตัวอย่างเช่น Intel Pentium IV 1 GHz จะหมายถึง CPU ของบริษัท Intel รุ่น Pentium Four ที่มีความเร็วในการทำงาน 1000 ล้านครั้งต่อวินาที เป็นต้น

2. หน่วยความจำหลัก Main Memory
ใช้เก็บข้อมูลและคำสั่ง (โปรแกรม) และผลลัผธ์มี 3 ชนิด
- ROM ใช้บันทึกคำสั่งไว้อย่างถาวรอ่านได้อย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขได้
- RAM ใช้บันทึกข้อมูลและคำสั่งที่เราทำงาน สามารถอ่านหรือเขียนข้อมูลได้ แต่ข้อมูลเหล่านี้จะหายไปเมื่อมีการรับข้อมูลใหม่
หรือปืดเครื่อง
- Cache เป็นหน่วยความจำที่ใช้บันทึกเก็บข้อมูลชั่วคราวก่อนส่งให้คอมพิวเตอร์ใช้ และช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็ว

3. หน่วยแสดงผล

4. หน่วยความจำรอง Storage
- หน้าที่ จำข้อมูลหรือคำสั่งได้ (เหมือนกับ Memory) แม้ไม่มีกระแสไฟฟ้ามาหล่อเลี้ยง
- ข้อแตกต่างระหว่าง Stirage และ Memory
1. สามารถจำข้อมูลหรือคำสั่งได้ แม้ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
2. มีการเก็บข้อมูลที่ใหญ่กว่า เช่น Storage = 80 GB = 80,000 MB
Memory = 256 MB
3. ราคาต่อหน่วยถูกกว่า

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์ เข้าใจภาษาเครื่องหรือภาษา Digital เราเรียกว่า"เลขฐานสอง" คือ 1 และ 0
เช่น ก ---> 0000 1111

- โทรศัพท์ใช้สัญญาณ Analog (รูปแบบคลื่น)
- Modem = Digital ----> Analog และแปลงจาก Analog ----> Digital
- ROM ใช้เก็ยคำสั่งที่ใช้ในการตรวจสอบความพร้อมของระบบคอมพิวเตอร์ เช่น CPU ใช้รุ่นอะไร RAM มีขนาดความจุเท่าไหร่ ฮาร์ดดิสมีขนาดเท่าไหร่ เป็นต้น
- Cache ทำหน้าที่แบบเดียวกันกับ RAM แต่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลกับ CPU เร็วกว่า RAM เพราะว่าอยู่ใกล้กับ CPU มากที่สุด

หน่วยวัดข้อมูลทางคอมพิวเตอร์

หน่วยวัดข้อมูลทางคอมพิวเตอร์

1. บิตและไบต์
บิต = 0 หรือ 1
1 ไบต์ เท่ากับ 8 บิต (ข้อมูลใน1ไบต์ สามารถแทนรูปแบบข้อมูลได้ทั้งหมด 2ยกกำลัง8 เท่ากับ 256)

2. กิโลไบต์และอื่นๆ
1 K = 10 กำลัง 3
1 M = 10 กำลัง 6
1 G = 10 กำลัง 9
1 T = 10 กำลัง 12

องค์ประกอบด้านฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์

องค์ประกอบด้านฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์
1.1 ส่วนรับข้อมูล (Input)
อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับคำสั่งหรือข้อมูลเพื่อนส่งต่อไปให้กับส่วนประมวลผล เช่น แป้นพิมพ์ เม้าส์

1.2 ส่วนประมวลผล (Processing)
อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ประมวลและเปรียบเทียบชุดคำสั่ง/ข้อมูล ที่ได้รับมาจากส่วนรับข้อมูลภายในของส่วนประมวลผล แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนการคำนวณ/เปรียบเทียบ และส่วนควบคุม เช่น CPU

1.3 ส่วนแสดงผล (Output)
อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการคแสดงคำตอบจากขั้นตอนส่วนประมวลผล เช่น จอภาพ หรือเครื่องพิมพ์

1.4 ส่วนจัดเก็บ (Storage)
อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล สำหรับการเรียกกลับมาใช้ภายหลัง เช่น USB เป็นต้น

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์


องค์ประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย


- ฮาร์ดแวร์ (Hardware)


- ซอฟแวร์ (Software)


- บุคลากร (Peopleware)


- ข้อมูลและสารสนเทศ (Data and Information)


- กระบวนการทำงาน (Procedures)


- การสื่อสารข้อมูล (Data Communication)